บนรถแท๊กซี่คันเก่า ความเงียบสถิตย์อยู่กับฉันเพียงครู่ ตลอดการเดินทาง เสียงแห่งความสุขเจื้อยแจ้วในหัวใจฉัน และชายวัยเกษียณที่พาฉันกลับบ้านในวันนี้ คุณอาแท๊กซี่ดูจะเก็บความสุขเอาไว้ไม่อยู่ จึงล้นออกมาเป็นคำพูด “ผมดีใจ เพิ่งไปกินข้าวกับลูกสาวมา” ฉันมองเข้าไปในกระจกมองหลังของคนขับรถ รอยตีนกากำลังกรีดยิ้มบนใบหน้าของคุณอา
“ลูกสาวของคุณอาอายุเท่าไรคะ” ฉันสานต่อความรู้สึกที่คุณอาแท๊กซี่อยากแบ่งปัน
“ทำงานแล้วครับ เป็นหมอ และตอนนี้กำลังเรียนเฉพาะทาง …เป็นกุมารแพทย์” คุณอาตอบ “โห ดีจัง คุณอาก็สบายแล้วสิคะ แต่ค่าเล่าเรียนแพทย์คงสูงไม่ใช่น้อยเลยนะคะ”
“ใช่ เป็นล้านเลยละ ผมส่งเสียเอง และพี่ชายของเขาก็ช่วยด้วย” คุณอาตอบ น้ำเสียงภูมิใจมาก
เมื่อลูกสาวคนกลางสอบติดแพทย์ จุฬา ฯ คุณอาเลือกที่จะเกษียณก่อนอายุราชการที่ประจำอยู่ที่ร้อยเอ็ดบ้านเกิด มาอยู่กรุงเทพ เพื่อมาขับแท๊กซี่ รับ-ส่งลูกสาวไปมหาวิทยาลัย และทำงานไปด้วย
“ทีแรก ผมอยากให้ลูกเรียนนิติศาสตร์เหมือนผม แต่ลูกเขาขอเลือกแบบที่เขาอยากเรียนก่อน และถ้าไม่ติดก็จะเรียนนิติศาสตร์อย่างที่พ่อต้องการ … แต่เขาสอบติดแพทย์ ๑ใน ๑๐ อันดับทีเดียว”
คุณอามีลูก ๓ คน ลูกชายคนโตของคุณอาทำงานที่บริษัทการบินไทย ลูกชายคุณสุดท้องจบจากโรงเรียนนายร้อย สามพรานและปัจจุบันเป็นนายร้อยตำรวจประจำที่สถานีตำรวจแห่งหนึ่งในกรุงเทพ
“คุณอาเลี้ยงลูกอย่างไรคะ” ฉันถาม คุณอาตอบสวนโดยไม่ต้องคิด “ส้มตำปูปลาร้า ไข่เจียวหมูสับ” ฉันหัวเราะ คุณอายิ้มและพูดต่อว่า “อ้าว จริง ๆ นะ ผมเลี้ยงลูกอย่างนั้น ลูกผมบอกว่า กับข้าวที่พ่อทำอร่อยมาก เขามีความสุข ลูก ๆ รักผมมาก อย่างลูกสาวคนกลาง เวลาผมไปส่งเขาที่มหาวิทยาลัย เขาจะเข้ามากอดผมทุกวันก่อนไปเรียน เขาไม่อายที่พ่อขับแท๊กซี่มาส่ง”
“ผมบอกลูกเสมอว่า ป่าป๊าจน ไม่มีทรัพย์สมบัติมรดกอะไรจะให้ลูก การศึกษาเป็นสมบัติที่ป่าป๊าจะให้ลูกได้ ก็ขอให้ลูกขยันเรียน ความเก่งสู้ความขยันไม่ได้”
ลูก ๆ ของคุณอาเรียนในโรงเรียนตามจังหวัดต่าง ๆ แล้วแต่ว่าพ่อจะถูกส่งให้ไปประจำราชการที่ไหน และสุดท้ายก่อนที่เข้ามหาวิทยาลัยก็เรียนที่บ้านเกิดในจังหวัดร้อยเอ็ด
การทบทวนบทเรียนในแต่ละวัน การจดบันทึก การอ่านและพูดคุยกันในครอบครัวทั้งในเรื่องการเรียนและชีวิต อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ลูก ๆ ของคุณอาประสบความสำเร็จในการเรียนและการทำงาน
“ผมเป็นตัวอย่างให้เขาเห็นว่า ผมไม่โกง ผมเป็นข้าราชการ เงินเดือน สวัสดิการที่ผมได้รับเพียงพอแล้วกับชีวิต และการไม่โกงก็ทำให้ชีวิตของผมและครอบครัวดี มีความสุข”
ปัจจุบันนี้ การขับแท๊กซี่เป็นงานอดิเรกที่ให้รายได้เสริมจากเงินบำนาญ และทำให้คุณอารับ-ส่งลูกสาว รวมถึงหลาน ๆ ที่กำลังเรียนอยู่ที่โรงเรียนอินเตอร์แห่งหนึ่ง
นอกจากนั้นคุณอายังรับว่าความ ทั้งคดีแพ่งและอาญาบ้าง ตามแต่งานจะเข้า … เป็นทนายและคนขับแท๊กซี่นั่นเอง … มิน่าคุยเก่งมาก ๆ แต่ก็เป็นเรื่องที่ดีจริง ๆ